หนึ่งสิ่งในการทำความสะอาดห้องน้ำที่เรามักพบเจอกัน นั่นก็คือไม่ว่าจะคลีนนิ่งอย่างไร ก็รู้สึกว่ามันไม่สะอาดเท่ากับการที่จ้างให้มืออาชีพมาทำความสะอาดห้องน้ำให้ แล้วพวกเขามีเคล็ดลับในการทำความสะอาดยังไงกันบ้าง บทความนี้ bTaskee จะพาคุณไปเจาะลึกถึงเคล็ดลับเหล่านั้น ว่าจะขจัดคราบในห้องน้ำแบบ Deep Cleaning ได้อย่างไรกันบ้าง พร้อมกับกลเม็ดต่าง ๆ ที่คุณควรรู้อีกด้วย
รวมอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ที่ทุกบ้านควรมี
1. ผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาด
ในปัจจุบันน้ำยาล้างห้องน้ำจะแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภท และควรเลือกซื้อเพื้อใช้งานให้ตอบโจทย์ โดยน้ำยาที่ควรซื้อสำหรับการทำความสะอาดห้องน้ำ ได้แก่ น้ำยาขัดพื้นห้องน้ำ, น้ำยาฆ่าเชื้อ, น้ำยาเช็ดกระจก, น้ำยาแก้ส้วมต้น น้ำยาทำความสะอาดชักโครก หรือน้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์โดยเฉพาะ เป็นต้น
2. แปรงขัดห้องน้ำ แปรงขัดโถสุขภัณฑ์
แปรงขัดห้องน้ำควรเตรียมให้พร้อมสำหรับการขัดและเช็ดสุขภัณฑ์ รวมถึงบริเวณรอบ ๆ ให้ได้ดีที่สุด โดยแนะนำให้เลือกแปรงสำหรับการขัดพื้นห้องน้ำที่เป็นด้ามจับยาว รวมถึงแปรงขนาดเล็ก ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดโดยรอบ และขัดโถสุขภัณฑ์ให้สะอาด
3. ผ้าไมโครไฟเบอร์
ผ้าไมโครไฟเบอร์ เป็นผ้าที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและเช็ดสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม สามารถใช้ในการทำความสะอาดได้กับทุกสภาพผิว ซึมซับน้ำได้ดี และเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม
4. ผ้าเช็ดอเนกประสงค์
แม้จะมีผ้าไมโครไฟเบอร์แล้ว แต่ก็ควรมีผ้าเช็ดอเนกประสงค์ติดไว้ในการทำความสะอาดห้องน้ำด้วย เพื่อให้สามารถเช็ด หรือนำมาชุบกับน้ำยาทำความสะอาด, น้ำสบู่ หรือทริคการทำความสะอาด อย่างเช่น การใช้น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว เป็นต้น
5. ถุงมือยาง
การทำความสะอาดห้องน้ำจะมีการสัมผัสกับคราบสกปรก และน้ำยาทำความสะอาดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพื่อป้องกันสารเคมีและสิ่งสกปรกปนเปื้อนต่าง ๆ คุณควรที่จะสวมถุงมือยางทุกครั้งที่ทำความสะอาดห้องน้ำด้วย
6. หน้ากากอนามัย
การทำความสะอาดห้องน้ำจะต้องมีการใช้น้ำยาต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ ดังนั้น ควรที่จะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวเรา
7. ขวดสเปรย์หรือฟ็อกกี้
ขวดสเปรย์หรือฟ็อกกี้ เป็นตัวช่วยในการผสมน้ำยาทำความสะอาด และมีส่วนช่วยในการใช้น้ำยาทำความสะอาดได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
8. ยางรีดน้ำ ไม้รีดน้ำ ที่เช็ดกระจก หรือไม้กรีดกระจก
ยางรีดน้ำ หรือที่มักเรียกกันว่าที่เช็ดกระจกและไม้กรีดกระจก เป็นตัวช่วยอย่างดี สำหรับการทำความสะอาดพื้นหรือกระจก เนื่องจากสามารถไล่น้ำที่เกาะพื้นหรือกระจกออกไปได้อย่างหมดจด ทั้งนี้ยังสามารถใช้งานได้ง่าย และอำนวยความสะดวกได้ดีอีกด้วย
ทำความสะอาดห้องน้ำให้คราบหมดจด ด้วยกลวิธีแบบมืออาชีพ
1. นำผ้าเช็ดเท้าไปซัก
ผ้าเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าห้องน้ำ รวมทั้งผ้าเช็ดมือ และผ้าม่านที่ประดับอยู่ เป็นตัวสะสมเชื้อโรคและฝุ่นไรจำนวนไม่น้อย ดังนั้นก่อนจัดการล้างห้องน้ำ ควรปลดม่าน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดเท้าไปซักทำความสะอาดให้เรียบร้อย ซึ่งควรซักทำความสะอาดในทุก ๆ 1-2 สัปดาห์
2. ย้ายสิ่งของออกมาจากห้องน้ำ
ดำเนินการย้ายสิ่งของทุกอย่างออกจากห้องน้ำให้หมด ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและของตกแต่งกระจุกกระจิก รวมไปถึงการตกแต่งบางอย่างที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ เพื่อจัดการพื้นที่ให้โล่งที่สุด ก่อนการทำความสะอาดห้องน้ำ
3. ราดน้ำยาทำความสะอาดในโถสุขภัณฑ์
ทำการราดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำลงในโถส้วมให้ทั่วถึง พร้อมเปิดพัดลมดูดอากาศ หรืออย่างน้อยก็ต้องเปิดประตูและหน้าต่างห้องน้ำ เพื่อระบายอากาศ เมื่อราดเสร็จจึงปิดฝาชักโครกเพื่อไม่ให้น้ำยาระเหยออกมา ทว่า หากใครไม่อยากเสี่ยงกับสารเคมีอันตราย ให้ผสมผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในอัตราส่วน 75 ต่อ 25 แล้วใช้ทำความสะอาดสุขภัณฑ์แทน
4. ปัดหยากไย่ ไล่ฝุ่น
ความสะอาดของห้องน้ำไม่ได้เปล่งประกายจากพื้นห้องน้ำหรือสุขภัณฑ์ต่าง ๆ เพียงเท่านั้น แต่ฝ้าเพดานและผนังห้องน้ำก็ไม่ควรที่จะมองข้าม ดังนั้นการใช้ไม้กวาดหยากไย่ไล่กวาดไปตามฝ้าเพดานให้ทั่ว โดยไล่กวาดตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านล่าง เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายนัก
5. ขัดกระจกและผนังห้อง
โดยเช็ดกระจกด้วยน้ำยาเช็ดกระจกกับกระดาษหนังสือพิมพ์ ส่วนผนังก็ให้ถูด้วยแปรงขัด แต่หากเป็นผนังที่ติดวอลเปเปอร์ ให้หุ้มแปรงขัดด้วยผ้าชุบน้ำผืนหนา แล้วค่อย ๆ เช็ดถูผนังให้สะอาด แต่สำหรับคราบหนัก ก็ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดร่วมด้วย เพื่อความสะอาดที่หมดจด
6. ล้างอ่างและบริเวณเคาน์เตอร์
ผสมน้ำสบู่กับน้ำอุ่นแล้วใช้แปรงสีฟันอันเก่า มาขัดตามซอกกระเบื้องบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า รวมทั้งพื้นที่แคบตรงอ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำ แต่หากคราบสกปรกฝังแน่น เราสามารถใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูให้พอเป็นเนื้อข้นเหนียว แล้วนำมาป้ายคราบสกปรก โดยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นค่อยใช้แปรงสีฟันขัดอีกครั้ง แต่สำหรับพื้นที่ของอ่างล้างหน้าและกระเบื้องเคาน์เตอร์ สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดและฟองน้ำขัดถูได้เลย
7. ทำความสะอาดด้านนอกโถสุขภัณฑ์
เริ่มจากการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาขจัดคราบอเนกประสงค์ลงไปให้ทั่วบริเวณด้านนอกของโถสุขภัณฑ์ แล้วใช้ฟองน้ำบิดหมาดถูทำความสะอาดโดยรอบ หลังจากนั้นทำการล้างด้วยน้ำสะอาดให้เรียบร้อย
8. ขัดโถสุขภัณฑ์
หลังจากจัดการด้านนอกโถไปเรียบร้อยแล้ว การล้างโถสุขภัณฑ์ด้านในที่ทำการราดน้ำยาล้างห้องน้ำทิ้งไว้ โดยอุปกรณ์เสริมสำหรับขั้นตอนนี้ สามารถเลือกเป็นแปรงขัดมีด้ามยาวแบบปกติก็ได้ หากทำการขัด ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กดชักโครกชำระคราบน้ำยาอีกครั้งหนึ่ง
9. จัดการพื้นห้องน้ำ
ซึ่งหากใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ควรเทน้ำยาทิ้งไว้สัก 10 นาทีก่อนขัด หรือหากใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในการล้างห้องน้ำ ควรราดน้ำยาทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนลงมือขัด และสำหรับในส่วนร่องกระเบื้องที่สะสมคราบสกปรกไว้มาก เราจะต้องใช้แปรงสีฟันด้ามเก่ากับน้ำยาฟอกขาวสำหรับการทำความสะอาดในจุดนั้น
10. ทำให้ห้องน้ำแห้งให้เร็วที่สุด
หลังจากการทำความสะอาดพื้นห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว เราควรใช้ม็อบหรือฟองน้ำซับน้ำออกอีกที พร้อมทั้งเปิดพัดลมดูดอากาศไว้ เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจสะสมในห้องน้ำ หลังจากการทำความสะอาด
อยากให้ห้องน้ำดูสะอาดอยู่เสมอ ทำความสะอาดห้องน้ำยังไงได้บ้าง
ทำให้ห้องน้ำมีอากาศถ่ายเท
การทำให้ห้องน้ำมีอากาศถ่ายเท จะช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ยังสามารถดูดความชื้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเราสามารถทำการเปิดพัดลมดูดอากาศ ในขณะอาบน้ำ หรือหลังจากอาบน้ำเสร็จ
ทำให้ห้องน้ำแห้ง หลังจากใช้เสร็จ
เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อราจะไม่ก่อตัวขึ้นในห้องน้ำ ให้สละเวลาเช็ดสุขภัณฑ์และพื้นผิวต่าง ๆ ทุกครั้งหลังใช้ห้องน้ำเสร็จ ซึ่งนอกจากเป็นการรักษาความสะอาดแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นล้ม เมื่อวิธีนี้รวมเข้ากับการระบายอากาศที่ดี ห้องน้ำก็จะปลอดเชื้อราและไม่กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
ตกแต่งแบบมินิมอล
ของตกแต่งต่าง ๆ ในห้องน้ำอาจดูสวยในวันนี้ แต่ในวันทำความสะอาด อาจทำให้เหนื่อยมากขึ้น เพราะยิ่งมีสิ่งของเยอะ ยิ่งทำให้ดักฝุ่นได้มาก ซึ่งห้องน้ำที่มีของน้อยจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้น การตกแต่งแบบมินิมอลซึ่งดูเรียบง่ายสบายตา จะช่วยลดความลำบากในการทำความสะอาดห้องน้ำได้ดีกว่า
มีรองเท้าใส่ในห้องน้ำ
ในหนึ่งวัน เท้าของเรานั้นสัมผัสกับฝุ่นผงและสิ่งสกปรกมากมาย เวลาไปเข้าห้องน้ำ ฝุ่นจึงผสมกับน้ำกลายเป็นคราบดำสกปรก ดังนั้นเพื่อรักษาพื้นห้องน้ำให้สะอาดนานที่สุด เราควรมีรองเท้าสำหรับใส่ในห้องน้ำโดยเฉพาะ และต้องทำความสะอาดรองเท้านั้นอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
สร้างนิสัยรักความสะอาด
มีคนใช้ห้องน้ำหลายครั้งต่อวัน เชื้อโรคจึงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจัดการกับปัญหานี้ ให้เรานำสเปรย์ฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ติดไว้ในห้องน้ำอยู่เสมอ แล้วให้ทุกคนทำความเคยชินกับการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณโถส้วม ทั้งฝารองนั่ง ฝาชักโครก และด้านข้าง หรือบริเวณที่มีคนสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ก๊อกน้ำ ฝักบัว ลูกบิดประตู เป็นต้น หรืออาจมีการติดข้อความเตือนไว้ในห้องน้ำ เพื่อช่วยเตือนให้ทุกคนช่วยกันปฏิบัติตามในช่วงแรกก็ได้เช่นกัน
สรุป
เพราะการที่ห้องน้ำสกปรก ไม่น่าใช้งาน จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่สวยงาม ไม่น่ามองแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเหล่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่มองไม่เห็นอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในครอบครัวของเราได้ ฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่เสมอ ๆ เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อของเหล่าเชื้อโรคอีกด้วย
แต่หากใครที่ไม่มีเวลามากพอที่จะจัดการด้วยตนเอง การหาแม่บ้านในด้านการทำความสะอาดห้องน้ำมาจัดการให้ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี แอปพลิเคชัน bTaskee สามารถจัดการให้กับคุณได้ ด้วยความสะดวกของตัวแอปพลิเคชัน ที่ทำให้คุณสามารถจองแม่บ้านออนไลน์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ทั้งยังได้รับใบรับรองมาแล้วว่ามีความสามารถ ใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงเข้าไปโหลดได้ที่ App Store หรือ Google Play เท่านั้น