เคล็ดไม่ลับเก็บผักในตู้เย็นให้สดใหม่ อยู่ได้เป็นเดือน!

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on linkedin
Share on email
เก็บผักในตู้เย็น
Share
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on linkedin
Share on email

ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างกักตุนอาหารแบบนี้ หนึ่งในปัญหาปวดใจของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านยุคนี้ คงไม่พ้นเรื่องอาหารเน่าเสีย และสิ่งที่เน่าเสียได้ง่ายที่สุดก็คือ “ผัก” หลายคนพยายามที่จะกักตุนผักในช่วงนี้ เพื่อที่จะทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและไม่ต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ แต่พอจะเอาผักมาทาน ผักก็เน่าเสียจนคุณต้องทิ้ง แต่หากคุณต้องการเก็บผักให้สดใหม่อยู่เสมอ วันนี้bTaskeeมีเคล็ดลับยืดอายุผักให้อยู่ได้นานเป็นเดือนมาฝากค่ะ เพียงแค่ปรับวิธีการเก็บผัก คุณก็จะสามารถเก็บผักไว้ในตู้เย็นให้สดใหม่เหมือนเพิ่งซื้อมาจากตลาดเลย!

ยืดอายุผักผลไม้ แค่แยกเก็บ

สำหรับใครที่เก็บผักทุกชนิดแบบเดียวกัน แนะนำให้เปลี่ยนวิธีการเก็บผักให้เหมาะกับผักแต่ละชนิด เพราะถึงจะเรียกว่าผักเหมือนกัน แต่ก็มีวิธีการเก็บที่ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นผักบางชนิด หากเก็บไว้ด้วยกัน อาจจะยิ่งทำให้ผักเน่าเสียได้ง่ายกว่าเดิม เนื่องจากผักบางชนิดจะปล่อยก๊าซเอทิลีน (Ethylene) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผักเสียง่ายขึ้น ไปยังผักที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งผักบางชนิดก็เป็นผักที่ไว้ต่อก๊าซเอทิลีน ทำให้เน่าเสียได้ง่าย เช่น หากเก็บมะเขือเทศที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน ไว้กับแตงกวาที่ไวต่อก๊าซเอทิลีน แตงกวาก็จะเน่าเสียได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมค่ะ

ผักผลไม้ที่ไวต่อก๊าซเอทิลีน

พริกไทย มะเขือม่วง อโวคาโด เลมอน มะเขือเทศ กีวี แตงกวา มะนาว ผักกาดหอม หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง

ผักผลไม้ที่ผลิตก๊าซเอทีลีน

มะเขือเทศ แอปเปิล กล้วย อโวคาโด 

ผักผลไม้ที่ไม่ไวต่อก๊าซเอทิลีน

กระเทียม ส้ม สับปะรด มันฝรั่ง และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี เชอร์รี ราซเบอร์รี สตรอเบอร์รี

ลดสารเคมีง่ายๆ แค่ล้างผักให้ถูกวิธี 

จุดเริ่มต้นของการเก็บผักให้สดใหม่คือการล้างผักให้สะอาด เพื่อล้างสิ่งสกปรกรวมไปถึงสารเคมีต่างๆออกไปก่อนนำไปแช่ตู้เย็นและนำมาปรุงอาหาร จากการทดสอบจาก สวรส. พบว่าผักผลไม้ที่วางขายตามท้องตลาด จะมีสารคาร์โบฟูราน (Carbofuran) เมโทมิล (Methomyl) ไดโครโตฟอส (Dicrotophos) และ อีพีเอ็น (EPN) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในยาแมลง หากเรารับประทานผักผลไม้ที่มีสารเหล่านี้เป็นเวลานาน ก็จะนำไปสู่โรคร้ายในอนาคตได้ เพื่อลดสารเคมีตกค้างดังกล่าว เรามาล้างผักให้ถูกวิธีกันดีกว่า!

โซดาทำขนม (Baking Soda)

ใช้เบคกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนตที่เรามักใช้ทำขนม ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น ประมาณ 20 ลิตร หรือ 1 กะลังมัง แช่ผักนาน 15 นาที จากนั้นจึงนำไปล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดสารตกค้างได้ร้อยละ 90-95 เลยทีเดียว

น้ำส้มสายชู

นำน้ำสะอาดกับน้ำส้มสายชูที่มีกรดความเข้มข้นร้อยละ 5 ผสมในอัตราส่วน 1:10 เช่น น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยผสมกับน้ำสะอาด 10 ถ้วยตวง แล้วนำผักไปแช่ 10-15 นาที แล้วล้างโดยน้ำสะอาดอีกครั้ง น้ำส้มสายชูสามารถลดสารเคมีได้ร้อยละ 60-85% ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก

น้ำสะอาด

 วิธีนี้เป็นวิธีการล้างผักที่ง่ายที่สุด เพียงแค่คลี่หรือเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะแกรง แล้วใช้มือช่วยคลี่ใบผักล้างนาน 2 นาที ให้น้ำล้างผักปล่อยให้ไหลผ่านผัก สามารถลดสารเคมีได้ร้อยละ 25-65 ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก แนะนำให้ใช้น้ำเย็นจัดล้าง เพราะจะทำให้ผักสดกรอบมากกว่าเดิม

วิธีเก็บผักแต่ละชนิด

หลังจากล้างผักให้ถูกวิธีแล้ว เราก็มาดูวิธีการเก็บผักที่ถูกต้องกันดีกว่า การเก็บผักที่ดีที่สุดคือการเก็บผักให้เหมาะกับผักนั้นๆ เพราะอายุของผักแต่ละชนิดนั้นไม่เท่ากัน โดยหลักการที่สำคัญที่สุด หากต้องการให้ผักอยู่ได้นาน ก็คือการป้องกันการสูญเสียความชื้นของผัก ซึ่งหากเก็บผักไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้ผักมีรอยดำ ช้ำ มีเชื้อรา หรือ มีเมือกเหนียวได้ 

ผักใบเขียว

หลังจากล้างผัก แนะนำให้ตากผักให้แห้งสนิทก่อนก่อน หลังจากนั้นจึงใช้กระดาษอเนกประสงค์ห่อไว้ เพื่อป้องกันการดูดซับความชื้น หรือจะไม่ผักล้างก่อนนำไปใส่ตู้เย็นก็ได้แต่ควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปรับประทาน เนื่องจากน้ำและความชื้นจะทำให้ผักเสียเร็วขึ้น หากจะไม่ตากผักให้แห้ง อย่างไรก็ตาม ควรเช็คผักในตู้เย็นบ่อยๆ และดูว่ามีใบไหนที่เสียแล้วหรือยัง หากมีใบที่ช้ำเสียหรือเริ่มเปลี่ยนสภาพ ให้รีบตัดใบที่เสียออกทันที หรือทิ้งทั้งต้นไปเลย แล้วเก็บไว้ในถุงซิปล็อก หรือกล่องสุญญากาศ  เพื่อป้องกันไม้ให้จุลินทรีย์ลุกลามไปยังผักสภาพดีที่อยู่ใกล้เคียง 

ต้นหอม ผักชี คื่นช่าย

สำหรับต้นหอม ผักชี คื่นช่าย สามารถเก็บได้เหมือนกับผักใบเขียวทั่วไป เพียงนำผักที่แห้งใส่ถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกที่แห้งสนิดและปิดมิดชิด จากนั้นจึงนำไปแช่ในตู้เย็น 

แต่หากต้องการยืดอายุ ต้นหอม ผักชี คื่นช่ายให้นานยิ่งขึ้น สามารถนำไปใส่ขวดน้ำก่อนแช่ตู้เย็น เริ่มจากน้ำผักไปล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง แล้วนำขวดพลาสติกที่แห้งสะอาด มาตัดเป็น 2 ส่วน นำผักใส่เข้าไปในขวด แล้วปิดให้สนิท จากนั้นจึงนำไปแช่ในตู้เย็นโดยตั้งขวดไว้เหมือนกับขวดน้ำ วิธีนี้จะช่วยลดการกดทับของผัก และทำให้ผักสดใหม่ได้นานกว่าเดิม

ฟักทอง หอม กระเทียม มันฝรั่ง เผือก

ผักประเภทฟัก พืชหัว หรือพืชใต้ดิน  เก็บไว้ในถุงพลาสติกหรือ พลาสติกถนอมอาหาร หรือแร็ปถนอมอาหารที่สะอาดและแห้งให้มิดชิด แล้วใส่ตู้เย็นไว้ในช่องแช่ผัก ทั้งนี้ไม่ควรเก็บหอมกับมันฝรั่งไว้ด้วยกันเพราะจะทำให้สุกและเสียง่ายกว่าเดิม

มะเขือเทศ มะนาว

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเก็บมะนาวและมะเขือเทศคือการป้องกันการระเหยของผิว เริ่มจากล้างให้สะอาดแล้วนำไปตากหรือเช็ดให้แห้งสนิท จากนั้นห่อด้วยกระดาษอเนกประสงค์ทีละลูก หรือพันด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือแร็ปถนอมอาหาร ควรห่อให้มิดชิดและไล่อากาศออกให้หมด จากนั้นจึงเอาไปเก็บไว้ในตู้เย็น โดยวิธีการนี้สามารถเก็บมะนาวได้มากถึง 3-6เดือนเลยทีเดียว สำหรับมะเขือเทศสามารถเก็บใส่ในกล่องสุญญากาศได้ อย่างไรก็ตามเวลาเลือกซื้อมะเขือเทศ แนะนำให้เลือกลูกที่ยังไม่สุกมาก หรือเลือกลูกที่สีออกเหลืองๆ เพื่อยืดระยะเวลาการสุกของมะเขือเทศให้นานยิ่งขึ้น

เห็ด

เนื่องจากเห็ดเป็นผักที่เสียง่ายมากๆและไม่ชอบความอับชื้น แนะนำให้เก็บเห็ดโดยที่ยังไม่ล้าง เพราะการล้างเห็ดจะทำให้ความชื้นที่อยู่ในเห็ดนั้นลดลง หลังจากซื้อจึงแนะนำให้เก็บเห็ดในกล่องพลาสติก แต่ไม่ต้องปิดฝาจนแน่นสนิทเพื่อให้ลมสามารถผ่านเข้าไปได้เล็กน้อย หรือหากต้องการเก็บเห็ดไว้ในถุงซิปล็อก ก็สามารถเจาะรูเล็กๆเพื่อให้มีลมเข้าไปอากาศถ่ายเทได้เหมือนกัน

ติดตามข่าวสารล่าสุด โปรโมชั่นและเคล็ดลับดีๆที่ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น จาก bTaskee

The application is currently deployed in Thailand Vietnam

download-asker-btaskee-ver-3

Book a home cleaning task
right away

Download, register and experience exciting features only available on bTaskee App – On-demand Home Services