บริการทำความสะอาดที่นอนด้วยเจ้าหน้าที่มือโปร และเครื่องทำความสะอาดประสิทธิภาพสูง

ที่นอนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วคนเราจะใช้เวลาอยู่บนที่นอนประมาณ 6 – 10 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว การรักษาความสะอาดที่นอนจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่เสมอ เพราะถ้าหากปล่อยไว้ให้มีไรฝุ่น เชื้อรา หรือเชื้อโรคต่าง ๆ สะสมอยู่บนที่นอนมาก ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

วิธีการทำความสะอาดที่นอนที่ดีนั้น นอกจากจะต้องปัดกวาดเป็นประจำแล้ว ก็ควรที่จะเรียกใช้บริการรับทำความสะอาดที่นอนจากมืออาชีพ 2 – 3 เดือนต่อครั้ง เพื่อกำจัดไรฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มองไม่เห็น ก็นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งคุณสามารถเรียกใช้บริการทำความสะอาดที่นอนคุณภาพจาก bTaskee ได้เลย ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว และพร้อมปฏิบัติงานตามวันเวลาที่คุณต้องการ

บริการทำความสะอาดที่นอนแบบมืออาชีพจาก bTaskee

bTaskee ให้บริการรับทำความสะอาดที่นอน 2 รูปแบบ คือ บริการกำจัดไรฝุ่น และบริการทำความสะอาดแบบพิเศษ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการทำความสะอาดที่เหมาะสมกับที่นอนของตนเองได้เลย

1. บริการกำจัดไรฝุ่น ด้วยเครื่องดูดไรฝุ่นประสิทธิภาพสูง

เหมาะสำหรับเตียงนอนที่ไม่มีคราบสกปรกฝังลึก สามารถกำจัดไรฝุ่นที่อยู่บนที่นอนได้อย่างล้ำลึกด้วยเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและทันสมัยที่สุด ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ รับรองว่าการใช้บริการของเรา จะช่วยให้ที่นอนสะอาดปราศจากไรฝุ่น และช่วยลดการเกิดอาการภูมิแพ้ได้แน่นอน

2. บริการทำความสะอาดแบบพิเศษ (Deep Clean)

บริการซักที่นอนนี้ จะเหมาะสำหรับที่นอนที่มีคราบสกปรกฝังลึก ไม่ว่าจะเป็น รอยคราบจากฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ปัสสาวะ ประจำเดือน คราบน้ำหวาน นม กาแฟ ขี้ไคล หรืออื่น ๆ โดยเจ้าหน้าที่ของเราจะใช้เครื่องดูดสำหรับทำความสะอาดชนิดพิเศษที่สามารถฉีดพ่นน้ำยาและปลดปล่อยแรงดูดประสิทธิภาพสูง สามารถขจัดคราบสกปรกฝังลึก ฝุ่น ไรฝุ่น และเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ในคราวเดียว รับรองว่าหลังจากใช้บริการของเราแล้ว ที่นอนของคุณจะกลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่แน่นอน

ขั้นตอนการทำความสะอาดที่นอนแบบพิเศษ

1. ตรวจสอบรายละเอียด ปริมาณ และยืนยันการจองบริการ
2. ดูดฝุ่นจากที่นอน และตามซอกมุม โดยเครื่องดูดสำหรับทำความสะอาดชนิดพิเศษ
3. ฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดพิเศษบนพื้นผิวของที่นอน
4. ขจัดสิ่งสกปรก และคราบทั่วไปบนพื้นผิวทั้งหมดของที่นอน (สามารถขจัดคราบเหลืองและรอยดำได้ 80 – 90%)
5. ฉีดน้ำอีกครั้งเพื่อขจัดสารสารเคมี และดูดน้ำออกให้แห้ง
6. พ่นฆ่าเชื้อที่นอน
7. ทำความสะอาด เช็ดพื้นให้แห้ง พร้อมทั้งจัดเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ในตำแหน่งเดิม
8. ให้ลูกค้าตรวจงาน พร้อมส่งมอบงาน

บริการทำความสะอาดที่นอน ราคาเท่าไร?

ค่าบริการรับทำความสะอาดที่นอนจาก bTaskee แบ่งเป็น 2 แบบ คือ ค่าบริการกำจัดไรฝุ่นบนที่นอนด้วยเครื่องดูดไรฝุ่นประสิทธิภาพสูง ราคา 1,300 บาท และ ค่าบริการทำความสะอาดแบบพิเศษ (Deep Clean) ขจัดคราบฝังลึกบนที่นอนอย่างหมดจด ราคา 1,700 บาท 

ทั้งนี้ค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนไปได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ให้บริการ ชั่วโมงเร่งด่วน และวันหยุด ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถจองบริการและเช็กราคาที่แน่นอนได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน bTaskee

ทำไมต้องใช้บริการรับทำความสะอาดที่นอนจาก bTaskee?

เราคัดสรรทีมงานมืออาชีพเพื่อคุณ

พาร์ทเนอร์ หรือเจ้าหน้าที่จาก bTaskee ผ่านการคัดสรรด้วยกระบวนการคัดเลือกที่พิถีพิถัน ทั้งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมโดยละเอียด ตรวจสอบประสบการณ์ทำความสะอาด และใจรักด้านบริการ จึงมั่นใจได้เลยว่า ผู้ใช้บริการจะได้รับบริการทำความสะอาดที่นอน โซฟา ผ้าม่านที่มีคุณภาพ เป็นมิตร และใส่ใจอย่างแน่นอน

ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดแบบพิเศษ ได้รับมาตรฐานสากล

เราได้คัดสรรเหล่าพาร์ทเนอร์ที่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับการทำความสะอาดที่นอนโดยเฉพาะ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดที่นอนให้ลูกค้าจะต้องได้รับมาตรฐานสากล และมาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพื่อความสะอาดแบบล้ำลึก และไม่สร้างความเสียหายให้กับที่นอนของคุณ

วิธีจองบริการทำความสะอาดที่นอนผ่านแอป bTaskee

1. เลือกบริการ เข้าไปที่หน้าหลัก และกดที่รูป “เฟอร์นิเจอร์ผ้า”

2. ใส่รายละเอียดที่อยู่และข้อมูลอื่น ๆ ให้ชัดเจนเพื่อให้พาร์ทเนอร์สามารถรับงานได้อย่างรวดเร็วและทำงานง่ายยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเลือกบริการทำความสะอาดที่นอนที่ต้องการ

3. เลือกเวลาทำงาน เลือกเวลาทำความสะอาดที่คุณต้องการเพื่อให้พาร์ทเนอร์กดรับงานได้อย่างสะดวก

4. ยืนยันและจ่ายเงิน อ่านรายละเอียดข้อมูล ที่อยู่ และช่องทางการชำระเงินอีกครั้ง ก่อนกดยืนยันการโพสต์งาน

รวมคำถามเกี่ยวกับบริการทำความสะอาดที่นอนที่พบบ่อย

1. ทำไมต้องทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำ?

ไรฝุ่นสามารถอยู่บนที่นอนได้นานถึง 10 ปี หากไม่กำจัดไรฝุ่นตามระยะเวลาที่เหมาะสม ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้นอนในระยะยาว ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และโรคผิวหนัง อีกทั้งคราบสกปรกต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนที่นอนก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย 

ดังนั้นคุณจึงควรทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำ เพราะนอกจากจะทำให้ที่นอนสะอาดน่านอนแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย

2. ควรทำความสะอาดที่นอนบ่อยแค่ไหน?

คุณควรทำความสะอาดที่นอนด้วยการปัดกวาด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นประจำทุกวัน และใช้เครื่องดูดไรฝุ่นประสิทธิภาพสูงทุก ๆ 4 – 6 เดือน เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก 

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีเครื่องดูดไรฝุ่นคุณภาพสูง หรือเตียงนอนมีคราบสกปรกฝังแน่น สามารถใช้บริการทำความสะอาดจาก bTaskee ได้ เราพร้อมให้บริการตามวันเวลาที่ต้องการ นัดหมายผ่านแอปได้เลย

3. ทำความสะอาดที่นอนด้วยตัวเองดีกว่าหรือไม่?

คุณสามารถทำความสะอาดที่นอนได้ด้วยตัวคุณเองที่บ้านได้ ในกรณีที่คุณมีเวลา มีเครื่องมือทำความสะอาดครบครัน และมีขั้นตอนการทำความสะอาดที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่สะดวกหรือไม่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม แนะนำให้เลือกใช้บริการทำความสะอาดที่นอนกับผู้เชียวชาญจะดีกว่า เพราะผู้เชี่ยวชาญจะมีอุปกรณ์พร้อม และรู้ขั้นตอนการทำความสะอาดที่ถูกต้อง ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้ว่าที่นอนของคุณจะสะอาดอย่างแน่นอน