ไอเท็มไม่ลับที่ช่วยให้แก้ปัญหาการนอนหลับยากหรือเตียงนอนไม่นุ่มสบาย ก็คือการใช้ท็อปเปอร์นั่นเองค่ะ การใช้ท็อปเปอร์คือวิธีที่จะทำให้ช่วงเวลาพักผ่อนของคุณเป็นช่วงที่ได้หลับสบายและได้ชาร์จพลังอย่างเต็มที่นั่นเอง วันนี้ bTaskee จะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่า ท็อปเปอร์คืออะไร ข้อดีของท็อปเปอร์ ดีกว่าที่นอนธรรมดาอย่างไร รวมถึงควรเลือกท็อปเปอร์อย่างไรให้เหมาะสมค่ะ
ท็อปเปอร์คืออะไร ต่างจากที่นอนอย่างไร
ท็อปเปอร์ หรือแผ่นรองนอน เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ปูทับฟูกนอนหรือที่นอน โดยจะมีความนุ่มและช่วยรองรับสรีระของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ทำให้อาการปวดหลังจากการนอนลดน้อยลงและช่วยให้หลับสบายมากขึ้น ท็อปเปอร์มีหลากหลายชนิดขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ อย่าง ขนสัตว์ ยางพารา ฟองน้ำ และโฟม แต่ละชนิดก็จะให้สัมผัสที่ต่างกันออกไป โดยข้อแตกต่างระหว่างที่นอนและท็อปเปอร์ คือ
- ท็อปเปอร์ควรใช้คู่กับที่นอน ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเดี่ยว ๆ
- ท็อปเปอร์มีความบางมากกว่า จัดเก็บง่ายและน้ำหนักเบา มีผิวสัมผัสที่นุ่มสบายมากกว่าที่นอน
- ที่นอนมีอายุการใช้งานมากกว่าท็อปเปอร์
ข้อดีของ “ท็อปเปอร์”
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยขณะนอนหลับ
ท็อปเปอร์ที่มีความนุ่มและบางเบามากกว่าที่นอนจะช่วยรองรับสรีระของผู้ใช้งาน ทำให้หลับสบายมากขึ้น และหลับสนิทกว่าเดิม ไม่ทำให้หลังแอ่นหรือจมไปกับที่นอนเดิม นอกจากนี้ยังลดแรงกดทับ และช่วยกระจายน้ำหนัก หมดกังวลเรื่องอาการปวดเมื่อยจากการนอน
- ช่วยป้องกันการยุบตัวของที่นอน
เมื่อที่นอนเดิมมีปัญหายุบตัว ท็อปเปอร์เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้อที่นอนหลังใหม่ที่ราคาสูงกว่าท็อปเปอร์ เนื่องจากท็อปเปอร์จะช่วยปรับระดับให้ที่นอนเสมอกันมากขึ้น และหากที่นอนยังไม่เกิดการยุบตัว ท็อปเปอร์ก็สามารถช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าท็อปเปอร์ช่วยยืดอายุการใช้งานของที่นอนคุณได้เลย
- รักษาความสะอาดให้ที่นอนหลังโปรด
นอกจากช่วยยืดอายุการใช้งานของที่นอนแล้ว ท็อปเปอร์ยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและฝุ่นผงต่าง ๆ ที่อาจเปรอะเปื้อนที่นอนได้ด้วย โดยวิธีการทำความสะอาดท็อปเปอร์ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ใช้แปรงขนนุ่มมาปัดเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น
- จับเก็บและใช้งานง่าย
ท็อปเปอร์สามารถจัดเก็บได้ด้วยการม้วนหรือพับโดยไม่ทำให้เสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายง่าย ทำให้ประหยัดเวลาและสะดวกสบาย ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของท็อปเปอร์เลยทีเดียว
- ราคาย่อมเยา
ท็อปเปอร์มีราคาถูกกว่าที่นอนหลายเท่า มีผิวสัมผัสที่เบาและนุ่มสบายกว่า ดีไซน์สวย มีให้เลือกหลากหลายสีตามความเหมาะสมและความชอบของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังรองรับสรีระของผู้ใช้และป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการนอนได้ด้วย ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่งบประมาณไม่สูงมากค่ะ
เลือกท็อปเปอร์อย่างไรดี
- ความหนา: ท็อปเปอร์มีความหนาตั้งแต่ 1 นิ้ว ไปจนถึง 4 นิ้ว หากคุณต้องการนำท็อปเปอร์มาปูทับที่นอนก็ควรเลือกท็อปเปอร์ที่ไม่หนาเกินไปและไม่บางเกินไปจนเหมือนปูผ้าทับที่นอนเฉย ๆ เพราะการใช้ท็อปเปอร์ที่หนาหรือบางเกินไปจะทำให้นอนไม่สบายได้ สำหรับคนที่ชอบให้ที่นอนอุ่น อาจเลือกเป็นความหนาที่มากหน่อยได้ ท็อปเปอร์ที่แนะนำคือท็อปเปอร์ที่ทำจากเมมโมรี่โฟมและยางพารา
- วัสดุ: ท็อปเปอร์มีหลากหลายชนิดขึ้นอยู่กับวัสดุ โดยแบ่งออกเป็นท็อปเปอร์ที่ทำจากยางพารา ขนสัตว์ นุ่น และเมมโมรี่โฟม ข้อดีของท็อปเปอร์แต่ละประเภทก็แตกต่างกัน เช่นท็อปเปอร์ที่ทำจากขนสัตว์จะเหมาะกับคนที่แพ้ไรฝุ่น ท็อปเปอร์ที่ทำจากเมมโมรี่โฟมเหมาะกับคนที่ปัญหาเรื่องการปวดหลังได้
- ท็อปเปอร์ที่ทำจากยางพารา
ข้อดีคือรองรับสรีระและกระจายน้ำหนักได้ดี ไม่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย มีผิวสัมผัสเหมือนเมมโมรี่โฟม แต่แน่นกว่า ทำให้นอนสบาย ไม่ยวบ อายุการใช้งานมากและทนทาน แต่ข้อเสียคือราคาแพง สะสมความร้อนและน้ำหนักเยอะ
- ท็อปเปอร์ที่ทำจากเมมโมรี่โฟม
รองรับสรีระได้ดี โดยเฉพาะกล้ามเนื้อและข้อต่อ เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลังและมีปัญหาข้อต่อต่าง ๆ ลดเสียงรบกวนจากการขยับตัวไปมา ทนทาน ใช้งานได้ค่อนข้างนาน ข้อเสียคือกลิ่นสารเคมีเมื่อใช้งานในระยะแรก และสะสมความร้อน
- ท็อปเปอร์จากขนสัตว์
นุ่มและเบา ทนทาน ใช้งานได้ค่อนข้างนาน เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้ใยสังเคราะห์ เย็นสบาย ไม่สะสมความร้อน ข้อเสียคือราคาแพงและไม่รองรับสรีระเหมือนที่ทำจากยางพาราหรือเมมโมรีโฟม
- ท็อปเปอร์จากขนเป็ด
นุ่มเป็นพิเศษและทนทาน ใช้งานได้นาน เย็นสบาย ลดเสียงรบกวนจากการขยับตัวไปมา ไม่สะสมความร้อน ข้อเสียคือไม่รองรับสรีระ อาจทำให้ปวดเมื่อกล้ามเนื้อได้
- ท็อปเปอร์จากฝ้ายหรือโพลิเอสเตอร์
ผิวสัมผัสนุ่มเป็นพิเศษ มีทั้งแบบใยสังเคราะห์หรือใยธรรมชาติให้เลือกตามความเหมาะสมทำความสะอาดง่ายกว่าวัสดุอื่นและราคาถูก ข้อเสียคือไม่ค่อยทนทานมากนักและหากเป็นชนิดที่ให้ฝ้ายเกรดคุณภาพจะมีราคาสูง
ท็อปเปอร์ ใช้งานอย่างไรให้อยู่นาน
วิธีการรักษาท็อปเปอร์นั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่ปูทับลงบนที่นอนแล้วค่อยปูผ้าปูที่นอนและจัดวางหมอน หมอนข้างและผ้าห่ม นอกจากนี้ไม่ควรนำท็อปเปอร์มารองนอนแทนที่นอน เพราะท็อปเปอร์ถูกออกแบบมาให้เป็นอุปกรณ์เสริมของเครื่องนอนหลักเท่านั้น
